ตรรกะวิบัติ

DRAFT! ยังเขียนไม่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากผู้เขียนยังไม่มีเวลาพอ - LAST UPDATE 7:30am GMT+8

หลังจากที่บทความภาษาอังกฤษเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปในกลุ่มมิตรสหาย มีการเรียกร้องให้ผู้เขียนช่วยแปลเป็นภาษาไทยเพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์และกระจายไปในวงกว้างมากขึ้น ผู้เขียนจึงขออนุญาตพูดเรื่องซ้ำ แต่เป็นภาษาไทยไว้ตรงนี้

หมายเหตุ: บทความนี้แปล/ปรับปรุงมากจาก LOGICAL FALLACY ซึ่งดัดแปลงมาจาก LOGICAL FALLACIES OR FALLACIES IN ARGUMENTATION - CARM.ORG
ตรรกะวิบัติ คือการอ้างเหตุผลที่ไม่อาจเชื่อมโยงไปสู่ข้อสรุปดังที่อ้างได้ ทำให้ตรรกะบิดเบี้ยวจากที่ควรเป็น และบางครั้งอาจเป็นภัยใหญ่หลวงหากไม่รีบแก้ไขโดยเร็ว
ตรรกะวิบัติ หรือ เหตุผลวิบัติ มีหลายแบบด้วยกัน ผู้เขียนขอนำเสนอโดยการคัดลอก/เรียบเรียง/และให้ตัวอย่างซึ่งได้มาจากชีวิตจริงไว้ ณ ที่นี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในการถกประเด็นเหตุผลกับบุคคลอื่นๆให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่นถ้าบุคคลที่พูดคุยด้วยมีตรรกะวิบัติ ผู้อ่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปถกเถียงกับเขา แต่ควรนำตัวอย่างจากในบทความนี้ชี้ให้เขาเหล่านั้นเห็นว่าเขาวิบัติเช่นไร (ตรรกะ)

(ภาพบน) เป็นคำกล่าวจากเสรีชน™ท่านหนึ่ง


ตัวอย่างเกริ่นนำจากภาพข้างบน คนไทยบางคนบอกว่าในเมื่อประเทศอื่นๆเป็นประชาธิปไตย ไทยก็ต้องเป็นเช่นนั้นด้วย ถือเป็นตัวอย่างของตรรกะวิบัติแบบหนึ่ง

อนึ่ง: ผู้เขียนนำเสนอข้อมูลดังต่อไปนี้โดยใช้ตัวอย่างจากชีวิตจริงของผู้ที่อ้างตนเป็นเสรีชนโดยมิได้ขออนุญาต เนื่องจากเสรีชนท่านนั้นกล่าวกับทุกคนว่าข้อมูลของเขาอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องขอ เพราะเขามีความใจกว้าง - (จากคำบอกเล่าของคุณTwitter: @LastIFound )

และผู้เขียนทราบว่าตรรกะวิบัติเกิดขึ้นได้ในทุกสังคมชนชั้น แต่เนื่องจากเนื้อที่จำกัด ผู้เขียนจึงขอเลือกนำเสนอความวิบัติของตรรกะของฝ่ายเดียวเท่านั้น นั่นคือผู้ที่ยกย่องตนเองว่าเป็นเสรีชน เนื่องจากเราสามารถเห็นความย้อนแย้งและตรกะวิบัติจากพวกเขาได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ

ขอย้ำว่าผู้เขียนทราบดีว่าความย้อนแย้งหรือตรรกะวิบัติเกิดได้ในทุกคนสังคมชนชั้น ดังนั้น ขอความกรุณาอย่ามาระเบิดบ้านหรือทำร้ายผู้เขียน ผู้เขียนขอกราบอภัยและแสดงความขอบคุณไว้ล่างหน้าสำหรับความเข้าใจ

1. Ad Hominem - การโจมตีตัวบุคคล โดยไม่สนใจเนื้อหาของประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ (จากคำบอกเล่าของคุณ Twitter: @LastIFound ) ผู้ที่อ้างตัวเป็นเสรีชนท่านนี้จะโจมตีเรื่องการใช้นามแฝงของผู้แสดงความเห็นอื่นๆ โดยไม่สนใจว่าข้อมูลหรือเนื้อหาจะมีมูลหรือไม่อย่างไร)


2. Appeal to Force - ด่าทอ/สาปแช่ง/ข่มขู่ผู้ที่ถกประเด็นว่าถ้าไม่เชื่อเขา จะมีภัยร้ายแรงเกิดขึ้น หรือเรียกผู้ที่ถกประเด็นด้วยว่าโง่(เช่นเปรียบทั้งทางตรง/อ้อมว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเขาคือกบในกะลา)โดยไร้เหตุผลกำกับ


3. Appeal to Pity - ใช้ความสงสารเป็นเครื่องมือในการกลบเกลื่อน/ชี้นำประเด็นไปในทางบิดเบี้ยว
Ex: Rice pledging scheme is needed for the sake of poor farmers. (no matter how wrong the policy is.) [จำนำข้าวทำเพื่อประชาชนรากหญ้า (แม้ว่านโยบายจะผิดแค่ไหนก็ตาม] 
4. Appeal to the Popular - อ้างใช้พวกมากลากไป จากตัวอย่างที่ผู้เขียนได้รับมามีการ "เลือกใช้" Social Media ในช่องทางที่เป็นผลดีกับตัวเขาเท่านั้น ในกรณีนี้เสรีชนท่านนี้ (จากคำบอกเล่าของคุณ Twitter: @LastIFound) มักโดนตำหนิใน Twitter อยู่เสมอมาเสรีชนท่านนี้จึงไม่ชอบแสดงความเห็นมากมายนักใน Twitter

แต่ใน Facebook มีสาวกกลุ่มหนึ่งที่คอยกด Like ให้ (ไม่ว่าความเห็นจะแย่สักแค่ไหน) จึงเป็นที่ๆเสรีชนท่านนี้มักนำความไปเล่า(ฟ้อง) สาวกที่ติดตามเขาเพื่อหวังจะให้สาวกเหล่านั้นแสดงความเห็นที่เป็นคุณกับตัวเสรีชนท่านนี้ และอาจลามถึงการด่าทอผู้ที่มีความเห็นต่างจากเสรีชนท่านนี้อีกด้วย

ผู้เขียนได้รับทราบว่า มีสาวกขอเสรีชนท่านนี้ตำหนิ/ด่าทอผู้เขียนโดยไม่มีแม้แต่เหตุผลมาหักล้าง ซึ่งผู้เขียนรู้สึกแย่เป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นพฤติกรรมเหมือนสะกดจิตหมู่ คล้ายๆสีเสื้อการเมืองที่แกนนำว่าอะไรก็ว่าตามกัน ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพของทั้งผู้นำและผู้ตามเป็นอย่างยิ่ง


หรือคลั่งประชาธิปไตยคลั่งเลือกตั้ง ขนาดทำให้ตรรกะหรือความเป็นจริงผิดเพี้ยน (ประชาธิปไตยหรือการเลือกตั้งอาจไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง สำหรับผู้เขียนปัญหาอื่นๆเช่นความรับผิดชอบ ปากท้องสำคัญกว่ามาก)


5. Appeal to Tradition - บังคับให้คนอื่นเห็นพ้อง เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมา
Ex: Democrat party did not win the election, so it is unacceptable that they formed government, never had done before in history. [พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ชนะเลือกตั้ง แม้จะจัดตั้งรัฐบาลได้จากพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ควรทำ เพราะไม่เคยเกิดในประวัติศาสตร์]
6. Begging the Question - ตั้งธงไว้แล้วว่าคำตอบคืออะไร ในกรณีตัวอย่าง เสรีชนท่านนี้กล่าวไม่รับรัฐธรรมนูญแน่นอน แม้เนื้อหาจะดีแค่ไหนก็ตาม ขอขอบคุณ คุณ Twitter: @LastIFound ) สำหรับข้อมูล


7. Cause and Effect - หาเหตุผลจากสิ่งที่เห็นมาประกอบเพื่อชี้นำผิดๆ ทั้งๆที่อาจไม่เกี่ยวกันเลย
Ex: In Western world where I worshiped, people seems to be happy. Therefore, democracy causes people to be happy. [โลกตะวันตกที่ผมยกย่อง ทุกคนดูมีความสุขเนื่องจากประชาธิปไตย]
8. Circular Argument - ให้ดู 6. Begging the Question (ตั้งธงไว้แล้ว...)

9. Fallacy of Composition - ตั้งสมมติฐานแบบมั่วๆว่าถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดถูกต้องแล้ว ที่เหลือทั้งหมดต้องเป็นเช่นนั้น
Ex: You don't use your real name, so all what you have said must all be false. [แต่ชื่อก็ปลอม ความคิดคงปลอมเช่นกัน]
10. Fallacy of Division - พยายามเปรียบว่าถ้าภาพรวมถูกต้องแล้ว ส่วนเล็กๆส่วนอื่นต้องถูกต้องด้วยทั้งหมด
Ex: Oxford is one of the best university, and I went there, therefore I am also one of the best! [มีความสามารถเรียนที่ที่ Oxford ได้ ซึ่งดีที่สุดในโลก ผมคงดีที่สุดในโลกเช่นกัน]
11. Fallacy of Equivocation - เล่นคำพ้องเสียง หรือเล่นลิ้น เพื่อมั่วหาเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกันเลย


12. False Dilemma - ให้ทางเลือกของคำตอบน้อยกว่าความจริงที่มีมากกว่านั้น


13. Generic Fallacy - พยายามหาเหตุไม่ยอมรับบางเรื่องเพียงเพราะที่มา ทั้งๆที่เนื้อหาของเรื่องนั้นอาจเป็นสิ่งที่ไม่ผิด ในกรณีตัวอย่างนี้ เนื้อหาของรัฐธรรมนูญมิได้ถูกพูดถึงเลย แต่เสรีชนท่านนี้ประกาศว่าไม่รับเพียงเพราะที่มาไม่ถูกใจ


14. Guilt by Association - ไม่ยอมรับเหตุผลของคนที่กล่าวถึงเพียงเพราะว่าเขาอาจชื่นชอบ (หรือทำงานให้) บุคคลอื่นที่คนส่วนใหญ่หรือตนเองไม่ยอมรับ ในความเป็นจริงเนติบริกรที่เสรีชนท่านนี้กล่าวถึงเป็นผู้ที่มีความตั้งใจช่วยประเทศชาติให้หลุดรอดพ้นจากวังวนเดิมๆ เพียงแต่ว่าเขาต้องทำงานให้กับรัฐบาลที่เสรีชนท่านนี้ไม่ชอบ


15. Non Sequitur - อ้างถึงความเห็น หรือ ข้อมูล เรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับข้อสรุป หรือให้สรุปที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่กล่าวอ้างก่อนหน้า

ในกรณีตัวอย่างนี้ ผู้เขียนขอใช้ตัวอย่างเดิมจากข้อ 4. Appeal to the Popular ที่ เสรีชนท่านนี้พยายามอ้างว่า "ไม่กลัวการวิพากษ์" (ไม่กลัวการตรวจสอบ) เพราะตัวเขานั้นมีตรรกะแม่นยำ ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่อาจไม่ใช่เรื่องจริง และมีหลักฐานว่าเขาอ่อนเรื่องตรรกะมาก

และจากข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเติมจากคุณ Twitter: @LastIFound เสรีชนท่านนี้มีพฤติกรรมกลัวการตรวจสอบอย่างมาก ถึงขนาดไม่กล้าพูดคุยกับกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่พูดความจริง โดยเสรีชนท่านนี้อ้างว่าเป็นเรื่องของสิทธิในการไม่รับฟัง ซึ่งผู้เขียนเองเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้วก่อนหน้าว่า พฤติกรรมเช่นนี้เป็นข้ออ้างเพื่อกลบเกลื่อนการไร้ความรับผิดชอบ แต่ผู้เขียนขอไม่วิจารณ์มากไปกว่านี้


16. Poisoning the Well - พูดถึงด้านลบ/ไม่ดีของบุคคลคนหนึ่งให้ดูไม่ดี ก่อนที่บุคคลนั้นจะมีโอกาสพูด เพื่อหวังทำให้ความน่าเชื่อถือของคำพูดของบุคคลนั้นลดทอนไป


17. Red Herring - เอาเรื่องที่ไม่น่าจะสามารถเชื่อมโยงกันได้มาปนกันเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับสิ่งที่ตนพูด (คุณ Twitter: @LastIFound ) ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่อ้างเป็นเสรีชนท่านนี้ชอบเอาประเทศไทยไปเปรียบกับเกาหลีเหนือ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราต่างกันทุกๆด้าน แต่เขาพยายามที่จะเชื่อมโยงให้ได้ในทุกโอกาสที่มี เป็นที่น่าสนใจว่าเหตุใดคสช.จึงยังปล่อยให้เขาคนนี้ลอยนวลอยู่ได้?)


18. Special Pleading (double-standard) - หลายมาตรฐาน โดยเอาตัวเองถูกเสมอเป็นที่ตั้ง จากตัวอย่างเสรีชนท่านนี้ตำหนิว่าสังคม(ไทย)มีปัญหา เพราะไม่สามารถแยกแยะเหตุผลเหนืออารมณ์ได้


แต่สุดท้ายเสรีชนท่านนี้ได้กระทำอย่างที่ตัวเองตำหนิไว้อย่างน่าใจหาย ขอขอบคุณ คุณ Twitter: @LastIFound ) สำหรับข้อมูลนี้ด้วย


19. Straw Man Argument - Producing an argument about a weaker representation of the truth and attacking it.
Ex. We know that evolution is false because we did not evolve from monkeys.
20. Category Mistake - Attributing a property to something that could not possibly have that property. Attributing facts of one kind are attributed to another kind. Attributing to one category that which can only be properly attributed to another.
Ex. Democracy is the only way of life, I believed it, and you must also do, otherwise you are another frog in a pond. [อันนี้ค่อนเผด็จการ เพราะผมเชื่ออย่างนั้น ดังนั้นคุณต้องเชื่อด้วย]
หวังว่าตัวอย่างที่ผู้เขียนแสดงให้เห็น (แม้ไม่ได้ขอจากเจ้าตัวผู้แสดงความวิบัติของตรรกะ) จะสามารถช่วยผู้อ่านให้เข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับบุคคลเหล่านี้ในสังคมได้

เรื่องตรรกะวิบัติอย่างที่ผู้เขียนกล่าวไว้ก่อนหน้า ว่าสามารถหาได้ง่ายในกลุ่มคนที่อ้างตนเป็นนักคิด นักข่าว หรือเสรีชน และผู้เขียนขอขอบคุณเสรีชนท่านที่กล่าวถึงไว้ ณ ที่นี้ด้วย ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของบทความนี้ และขอยืนยันว่าผู้เขียนมิได้ก้าวล่วง หรือวิพากษ์เสรีชนท่านนี้แต่อย่างใด แต่รู้สึกขอบคุณที่เสรีชนท่านนี้โดดเด่นมากในหัวข้อของบทความนี้ ขอชมด้วยจิตคารวะ

ผู้เขียนขอขอบคุณ คุณ Twitter: @LastIFound ) ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง สำหรับข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการเขียน โดยเฉพาะตัวอย่างที่ได้มา ขอบคุณอีกครั้ง

 

Tribute




"FAREWELL TO THE KING RAMA IX, THE GREATEST KING OF KING..."

Read more in "KING RAMA IX"

------P.Vajrasthira-----

Twitter Updates




"I DON'T TWEET" - QUOTED FROM KIMI RAIKKONEN, my all time favourite F1 driver

Read more in "@Polthorn"

------P.Vajrasthira-----

Meet The Author




"Mathematician and Computer Scientist who spend most of time doing other things..."

Read more in "About"

------P.Vajrasthira-----